ปู พงษ์สิทธิ์ คำภีร์ ปล่อยซิงเกิลที่สอง “เรายังมีความหวัง”

ปู พงษ์สิทธิ์ คำภีร์ ปล่อยซิงเกิลที่สอง “เรายังมีความหวัง”

“เรายังมีความหวัง” ซิงเกิลที่สองจากตำนานเพลงเพื่อชีวิต ปู พงษ์สิทธิ์ คำภีร์ บทเพลงแห่งกำลังใจ และความหวัง พร้อมมิวสิกวิดีโอสุดอบอุ่น ที่ห้ามพลาดชมโดยเด็ดขาด ปู พงษ์สิทธิ์ คำภีร์ เปิดปี 2565 ด้วยซิงเกิลแห่งความอบอุ่น ห่วงใย “อ้อมกอดของเรา” เพื่อให้แฟนเพลงทุกคน ได้รับรู้ว่า แม้หนทางที่ผ่านมา และเส้นทางข้างหน้าจะยากลำบากเพียงไหน ก็ยังมีคนมากมายที่อยู่เคียงข้างคอยปลอบขวัญ และให้กำลังใจ

และวันนี้ วันที่อุปสรรค และปัญหาต่าง ๆ ยังไม่จางหายไปไหน “ปู (พงษ์สิทธิ์ คำภีร์) 

ขอมอบบทเพลงใหม่ “เรายังมีหวัง” แทนกำลังใจ ให้ทุกคนเดินหน้าสู้ต่อไปด้วยความหวัง ที่กระตุ้นเตือนให้ทุกคนได้รู้ว่า แม้ชีวิตจะย่ำแย่แค่ไหน ขวากหนามขวางหน้าเพียงใด แต่มีสิ่งหนึ่งที่ไม่เคยหายไปจากตัวเรานั่นก็คือ “ความหวัง”

“ในวันที่เหนื่อยล้าและเศร้า ในวันที่ภูเขาโถมทับบนอก แต่เรายังมีความหวัง…” ที่เป็นภาษาง่าย ๆ แต่โดนใจ เข้าถึงความรู้สึกของทุกคนได้ไม่ยาก ซึ่งเป็นเสน่ห์ในการแต่งเพลงของ “ปู พงษ์สิทธิ์ คำภีร์ เสมอมา หรือ “หนทางขวากหนาม ขวางทางเส้นชัย ไม่มีสิ่งใดขวางใจ โจนทะยาน…” ที่ทำให้เห็นภาพชัดเจนว่า การต่อสู้กับปัญหา ความยากลำบากต่าง ๆ

ในครั้งนี้ ต้องอาศัยมากกว่า ความทะเยอทะยาน เพราะ เราต้องคว้ามาให้ได้ ไปให้ถึงให้ได้ กระโจนเข้าไปสุดตัว ซึ่งเป็นการปลุกเร้าให้ก้าวเดินอย่างมีความหวัง มั่นใจ และเต็มไปด้วยพลัง เพื่อให้ถึงเป้าหมาย โดยปู-พงษ์สิทธิ์ คำภีร์ เองก็วางเป้าหมายเอาไว้ว่า ปลายปีนี้อยากจะมีความสุขกับแฟนเพลงทุกคน ในคอนเสิร์ตครบรอบ 35 ปี หลังจากที่ไม่ได้สนุกด้วยกันมานาน

นอกจากจะปล่อยเพลงความหมายดี ๆ มาให้ฟัง “เรายังมีความหวัง” ยังถ่ายทำเป็นมิวสิควิดีโอ ให้ได้ชมกันเรียบร้อย โดยสร้างสรรค์เป็นเรื่องราวที่เต็มไปด้วยความซาบซึ้ง และประทับใจของนักมวยสาว ที่ต้องขึ้นชกบนเวทีแทนพี่ชายที่ล้มป่วย ซึ่งเป็นการทำตามความฝันของพี่ชาย

ตัวมิวสิควิดีโอถ่ายทอดออกมาอย่างได้อารมณ์ เต็มความรู้สึกไม่ต่างจากเพลง และชมกันได้ที่ Youtube: Pu Pongsit Official เช่นเดียวกับมิวสิกวิดีโอ และคลิปต่าง ๆ ของปู – พงษ์สิทธิ์ คำภีร์

ครม. เคาะปรับเกณฑ์รักษาโควิดเป็น UCEP+ ผู้ป่วยสีเขียวรักษาตามสิทธิ์

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่าที่ประชุม ครม. มีมติปรับเกณฑ์รักษาโควิดเป็น UCEP+ ผู้ป่วยสีเขียวรักษาตามสิทธิ์ เริ่ม 16 มี.ค. น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน ว่าที่ประชุม เห็นชอบ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤติ กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โรคโควิด-19 โดยให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม 2565 เป็นต้นไป

ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ที่ปรับปรุงนี้ ผู้ป่วยโควิด-19 ที่ไม่มีอาการ อาการไม่รุนแรง หรือที่เรียกว่ากลุ่มสีเขียว จะไม่นับเป็นผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤติ แต่สามารถเข้ารับการรักษาฟรีในโรงพยาบาลตามสิทธิ์ของแต่ละคน อาทิ สิทธิ์ประกันสุขภาพถ้วนหน้า สิทธิ์ประกันสังคม หรือสิทธิ์รักษาพยาบาลของข้าราชการ และแนะนำให้การดูแลแบบ Home Isolation (HI) หรือ Community Isolation (CI) หรือ Hotel Isolation

ส่วนผู้ป่วยติดโควิด-19 ที่แพทย์วินิจฉัยว่าเข้าเกณฑ์วิกฤติฉุกเฉินตามเกณฑ์ที่สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) ได้กำหนดแนวทางและเกณฑ์ประเมินคัดแยกระดับความฉุกเฉินไว้แล้ว คือ กลุ่มผู้ป่วยสีเหลืองและ สีแดง ให้สามารถเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลได้ในโรงพยาบาลทุกแห่ง โดยไม่กำหนดระยะเวลา 72 ชั่วโมงแรก

โดยสิทธิ์การปรับปรุงนี้เรียกว่า UCEP Plus ซึ่งสิทธิ์ดังกล่าวนี้ จะเปิดโอกาสให้มีการส่งต่อผู้ป่วยฉุกเฉินรุนแรงจากโรงพยาบาลหนึ่งไปเข้ารับการรักษาใน ICU ของอีกโรงพยาบาลได้ภายหลัง 72 ชั่วโมงแรกด้วย ซึ่งดีกว่าโรคอื่นๆ ที่เข้าตามนิยามเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติ

สำหรับสาระสำคัญของหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤติ กรณีโรคโควิด-19 มีดังนี้คือ กำหนดให้สถานพยาบาลต้องจัดให้มีการรักษาพยาบาลโดยฉุกเฉิน เพื่อให้พ้นจากอันตรายตามมาตรฐานวิชาชีพและขีดความสามารถของสถานพยาบาลโดยไม่มีเงื่อนไขในการเรียกเก็บค่ารักษาพยาบาล เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อการดูแลรักษา และให้สถานพยาบาลแจ้งต่อกองทุนของผู้มีสิทธิ์ได้รับการรักษาพยาบาลตามกฎหมายว่าด้วยหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือกฎหมายว่าด้วยประกันสังคม หรือกฎหมายว่าด้วยเงินทดแทนหรือจากส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐทราบโดยเร็ว

นอกจากนี้ ยังได้กำหนดให้กรณีที่มีปัญหาการวินิจฉัยในการคัดแยกผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤติให้ปรึกษาศูนย์ประสานคุ้มครองสิทธิ์ผู้ป่วยฉุกเฉิน ของสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติได้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง เพื่อดำเนินการวินิจฉัย โดยคำวินิจฉัยของศูนย์ประสานคุ้มครองสิทธิ์ผู้ป่วยฉุกเฉินให้ถือเป็นที่สุด ซึ่งแนวทางการคัดแยกผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤติ และแบบแจ้งผลการคัดแยกผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤติให้เป็นไปตามที่สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติกำหนด

Credit : barrensteinmusik.com betpasgiris8.com bicharaf.org borskainicijativa.net caribbeandaily.net cgilbi.org cyokubai.info cyrillerabiller.net debbiereynolds.net