อยู่ยาว! ฝ่ายกฎหมายสภาฯ ชี้ ประยุทธ์ วาระนายก สิ้นสุดปี 2570

อยู่ยาว! ฝ่ายกฎหมายสภาฯ ชี้ ประยุทธ์ วาระนายก สิ้นสุดปี 2570

หลังจากที่เป็นข้อถกเถียงกันมานาน ถึง วาระนายก ของ ประยุทธ์ ล่าสุดฝ่ายกฎหมายของสภาออกมาระบุว่า วาระนายก ประยุทธ์ เริ่มปี 2562 อยู่ยาวได้ถึง 2570 ฝ่ายกฎหมาย สภาผู้แทนราษฎร ได้พิจารณาและส่งความเห็นให้เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และ นาย ชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร รับทราบแล้วข้อสรุปในประเด็นดังกล่าว ปลายเดือน ต.ค. 2564 โดยเห็นว่า การนับระยะเวลาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญปี 2560 มาตรา158 วรรค 4 ต้องเริ่มนับตั้งแต่วันที่ 9 มิ.ย. 2562 ที่เป็นวันโปรดเกล้าฯ ให้พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญปี 2560 เป็นต้นไป

เพราะการกำหนดเงื่อนไขให้นายกฯ ดำรงตำแหน่งรวมแล้วเกิน 8 ปีไม่ได้นั้น 

เป็นเงื่อนไขการจำกัดสิทธิบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เป็นการบัญญัติกฎหมายในทางเป็นโทษ จะนำมาบังคับใช้ย้อนหลังในทางที่เป็นโทษไม่ได้ การกำหนดเงื่อนไขในรัฐธรรมนูญให้ผลย้อนหลังใช้บังคับกับการกระทำที่เกิดขึ้นก่อนวันที่รัฐธรรมนูญมีผลใช้บังคับ ย่อมขัดหลักกฎหมาย

ในส่วนประเด็น รัฐธรรมนูญปี 2560 มาตรา 264 ที่แม้จะกำหนดให้ ครม.ที่บริหารราชการแผ่นดินอยู่ในวันก่อนวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้ เป็นครม.ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้นั้น การปฏิบัติหน้าที่ของพล.อ.ประยุทธ์ ตามมาตรา 264 เป็นการปฏิบัติหน้าที่แทน ครม. ตามบทหลักของรัฐธรรมนูญปี 2560 เพียงชั่วเวลาหนึ่ง และต้องพ้นจากหน้าที่ภายหลังจากที่ ครม.ตามรัฐธรรมนูญปี 2560 เข้าปฏิบัติหน้าที่ หากรัฐธรรมนูญมีเจตนารมณ์ให้นับระยะเวลาปฏิบัติหน้าที่นายกฯ ของ พล.อ.ประยุทธ์ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ก่อนหน้านี้ จะต้องบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญให้ชัดเจนว่า ให้นับระยะเวลาดังกล่าวรวมเป็นระยะเวลาดำรงตำแหน่งนายกฯ ของ พล.อ.ประยุทธ์ ด้วย

ดังนั้น ระยะเวลาดำรงตำแหน่งนายกฯ ของพล.อ.ประยุทธ์ ตามมาตรา 264 นับตั้งแต่วันที่ 6 เม.ย.2560 ที่รัฐธรรมนูญปี 2560 บังคับใช้ จนถึงวันที่ 9 มิ.ย.2562 ที่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้รับการโปรดเกล้าฯเป็นนายกฯตามรัฐธรรมนูญปี 2560 จึงไม่ถือเป็นการดำรงตำแหน่งนายกฯ ตามรัฐธรรมนูญปี 2560 มาตรา 158

โดย วันโปรดเกล้าฯ ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในวันที่ 9 มิ.ย.2562 กล่าวคือหากนายกฯสามารถดำรงตำแหน่งได้ 8 ปี จะสิ้นสุดในปี 2570 กล่าวคือในการเลือกตั้งครั้งหน้า พล.อ.ประยุทธ์ ยังสามารถลงชิงตำแหน่งเก้าอี้นายกฯได้ในรอบหน้า

ธนกร ออกมาโรงโต้กระแสข่าว ประยุทธ์ งอนสื่อ หลังได้ฉายา ชำรุดยุทธ์โทรม อ้างมีภารกิจรับเสด็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี

นาย ธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้กล่าวในช่วงท้ายของการแถลงถึงกระแสข่าวที่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม ได้ออกมาโต้ตอบกระแสข่าวที่ว่า นายกฯงอนสื่อจากการให้ฉายาว่า ‘ชำรุดยุทธ์โทรม’

ครม.อนุมัติ ร่างพ.ร.ฎ.เลือกตั้งซ่อมส.ส. กรุงเทพ คาดเริ่ม มกรา 65

สืบเนื่องจากกรณี นาย สิระ เจนจาคา ส.ส. เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร พรรคพลังประชารัฐ ถูศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้พ้นสภาพ ส.ส. ทำให้ต้องมีการเลือกตั้งซ่อม ล่าสุดวันนี้ 28 ธ.ค. 64 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แถลงหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า ครม.อนุมัติร่างพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) กรุงเทพมหานคร เขตเลือกตั้งที่ 9 แทนตำแหน่งที่ว่างลง พ.ศ….  ดังนั้น จึงต้องดำเนินการตราพระราชกฤษฎีกาเพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งขึ้นแทนตำแหน่งที่ว่างลงภายใน 45 วัน นับแต่วันที่ตำแหน่งว่างลง

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้จัดทำร่างแผนการจัดการเลือกตั้ง โดยคาดว่าพระราชกฤษฎีกาจะมีผลใช้บังคับวันที่ 2 มกราคม 2565 จากนั้น กกต. ประกาศกำหนดวันเลือกตั้งและวันรับสมัครผู้สมัครรับเลือกตั้ง วันที่ 3 มกราคม 2565 ประกาศหน่วยเลือกตั้งและรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งภายในวันที่ 4 มกราคม 2565 รับสมัครส.ส.แทนตำแหน่งที่ว่างลง ระหว่างวันที่ 6-10 มกราคม 2565 และ จัดการเลือกตั้งได้ในวันที่ 30 มกราคม 2565

โดยนาย ธนกร ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ มีภารกิจรับเสด็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี จึงไม่ได้ตอบคำถามของสื่อมวลชน พร้อมระบุว่า “ในข้อเท็จจริงท่านไม่ได้งอน ท่านก็ทักทายสื่อตามปกติ และก็เข้าใจการทำงานของสื่อทุกสำนัก”

สำหรับการแถลงมติ ครม.สุดท้ายของปี พร้อมขอบคุณรองโฆษกรัฐบาลทั้ง 2 คนที่ร่วมทำงานด้วยกันอย่างดีเยี่ยม ช่วยกันสื่อสารข้อมูลต่างๆ สร้างการรับรู้ที่ถูกต้องไปสู่พี่น้องประชาชน พร้อมขอบคุณสื่อมวลชนในการให้ความร่วมมือชี้แจงข้อมูลข่าวสารต่างๆ ไปยังประชาชน และขออวยพรปีใหม่ให้ทุกคนและครอบครัวมีความสุข เดินทางกลับบ้าน ท่องเที่ยว ปลอดภัยจากโควิด ยึดหลัก Universal Prevention และมาตรการ COVID Free Setting

แต่ ส.ส. ไม่มีงบประมาณ ไม่มีอำนาจบริหาร เขาไม่ได้เป็นเศรษฐี ควักเงินตนเองช่วยประชาชนในพื้นที่ได้ไม่พอ เขาไม่ได้อยู่ฝ่ายเดียวกับรัฐบาล ไม่มีงบจากกระทรวงต่างๆ เข้าไปให้ ในขณะที่คู่แข่งของเขามีเงิน มีทรัพยากร อยู่ฝ่ายเดียวกันกับอำนาจรัฐ มีรัฐมนตรีคอยจัดสรรงบประมาณไปลงพื้นที่ให้ เรียกได้ว่าพร้อมทุกสรรพกำลัง เขาเริ่มเรียนรู้ว่า หากอยากช่วยประชาชนในพื้นที่ หากต้องการรักษาคะแนนเสียงเดิมเอาไว้ ก็ต้องวิ่งเข้าหารัฐมนตรีจากพรรคตรงกันข้ามกับเขา ก็ต้องหาเงินหาทองมาเพื่อช่วยเหลือประชาชน

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป